Logo
  • หน้าหลัก
  • ประวัติ
  • ผลงานวิชาการ
  • ผลงานอื่นๆ
    • หนังสือ
    • Powerpoint
    • สัมภาษณ์รายการต่างๆ
    • บทความอื่นๆ
  • Blog
  • Gallery ภาพส่วนตัว
  • ติดต่อ
Copyright, 2015 : drprapat.com - All rights reserved.
October 17, 2019
drprapat
บทความ
0

จีน-อาเซียน 2019 (ตอนที่ 1)

PreviousNext
large_000000000

  ปี 2019 นี้ ถือเป็นปีทองอีกปี ที่จีนประสบความสำเร็จ ในการเดินหน้าขยายอิทธิพลเข้าครอบงำภูมิภาคอาเซียน แม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะสะดุด เพราะสงครามการค้ากับสหรัฐ และสหรัฐกำลังไล่บี้และปิดล้อมจีนอย่างหนักก็ตาม แต่เหมือนกับกลับกลายเป็นว่า การไล่บี้ของสหรัฐกลับทำให้จีน มีความมุ่งมั่นและเร่งรีบมากขึ้นในการสร้างเสริมอำนาจแห่งชาติ และขยายอิทธิพลในภูมิภาค เพื่อต่อสู้กับการปิดล้อมจีนของสหรัฐ

  การขยายอิทธิพลของจีนทางด้านเศรษฐกิจ

  ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จีนได้ขยายอิทธิพลเข้าครอบงำภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขยายอิทธิพลทางด้านเศรษฐกิจ

  ปัจจุบัน จีนเป็นประเทสคู่ค้าอันดับ 1 ของอาเซียน คู่ค้าอันดับ 1 ของไทย ลาว กัมพูชา พม่า และอีกหลายประเทศในอาซียน จีนเป็นประเทศที่ให้ความช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจแก่ประเทศอาเซียนมากที่สุด นอกจากนี้ ในด้านการลงทุน จีนก็มีเม็ดเงินมหาศาลเข้ามาลงทุนในอาเซียนมากมาย จนในอนาคต จีนอาจกลายเป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนมากที่สุดในอาเซียน สงครามการค้ากับสหรัฐเป็นปัจจัยกระตุ้นให้บริษัทต่างๆของจีน ย้ายฐานการผลิตมายังอาเซียน โดยเฉพาะเวียดนามและไทย

  จนในขณะนี้อาจกล่าวได้ว่า ประเทศอาเซียนหลายประเทศ ได้พึ่งพาเศรษฐกิจจีนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะลาว กัมพูชา และพม่า จน 3 ประเทศนี้เกือบจะกลายเป็นจังหวัดหนึ่งของจีนไปแล้ว ส่วนไทยและเวียดนาม จีนก็ได้รุกคืบเข้ามาเป็นอย่างมากในด้านเศรษฐกิจในทุก ๆมิติ

  โครงการอภิมหาโปรเจคของจีน คือ Belt and Road Initiative หรือ BRI ก็ประสบความสำเร็จอย่างมากในอาเซียน จีนได้ประกาศนโยบาย “ระเบียงเศรษฐกิจจีน-คาบสมุทรอินโดจีน” (China-Indochina Peninsula Corridor) เป็น 1 ใน 6 ระเบียงเศรษฐกิจภายใต้ BRI แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา โครงการ BRI ในอาเซียนอาจจะมีปัญหาและสะดุดอยู่บ้าง แต่ในปีนี้ทุกโครงการเดินหน้าไปได้อย่างดี

  โครงการ BRI ในพม่า มีทั้งการสร้างถนน ทางรถไฟ โดยเฉพาะการสร้างท่าเรือใหญ่ที่เมือง Kyaukpyu

  ในกัมพูชาก็มีโครงการโครงสร้างพื้นฐานเต็มไปหมดที่จีนสร้าง

  เช่นเดียวกับในลาว โดยมีโครงการใหญ่ คือ การสร้างทางรถไฟความเร็วสูง คุนหมิง-เวียงจีนทน์ ซึ่งคืบหน้าไปมาก

  สำหรับโครงการ BRI กับไทย คือ การสร้างทางรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-หนองคาย หลังจากประสบปัญหาการเจรจายืดเยื้อ ตอนนี้ทุกอย่างก็เดินหน้าไปได้อย่างราบรื่น

  ในมาเลเซีย โครงการ BRI คือ การสร้างทางรถไฟสายตะวันออก แต่ปีที่แล้ว ดร.มหาธีร์ ได้ยับยั้งโครงการดังกล่าว แต่ต่อมาได้เจรจากับจีนใหม่ จีนก็ได้ประนีประนอมมากขึ้น และปีนี้ มาเลเซียก็ได้เดินหน้าโครงการนี้ต่อกับจีนไปแล้ว

  ยุทธศาสตร์ BRI ของจีนต่ออาเซียน คือ การขยายอิทธิพลครอบงำประเทศอาเซียนตอนบน ที่เป็นแผ่นดินใหญ่ของอาเซียน (Mainland Southeast Asia) 5 ประเทศ ได้แก่ พม่า ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม โดยเน้นการครอบงำเส้นทางการคมนาคมขนส่งทางบก ด้วยการสร้างถนนและทางรถไฟเชื่อมจีนตอนใต้กับอาเซียนตอนบน ส่วนอาเซียนตอนล่างที่เป็นประเทศเกาะ Maritime Southeast Asia ยุทธศาสตร์ BRI ของจีน คือ การเข้าครอบงำเส้นทางการเดินเรือต่าง ๆ ด้วยการสร้างท่าเรือเพื่อครอบงำทะเลจีนใต้และมหาสมุทรอินเดีย

  การขยายอิทธิพลของจีนทางด้านการทหาร

  สำหรับทางด้านความมั่นคงและการทหาร จีนก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก ในการขยายอิทธิพลทางทหารเข้าสู่อาเซียน และประสบความสำเร็จในการลดความขัดแย้งกับอาเซียนในปัญหาทะเลจีนใต้

  ยุทธศาสตร์ของจีนในทะเลจีนใต้ เป็นยุทธศาสตร์ที่แยบยล ที่มีลักษณะเป็น “ยุทธศาสตร์ 2 ช่องทาง” ช่องทางแรก คือ การเจรจากับอาเซียน เพื่อถ่วงเวลาออกไปเรื่อยๆ ในขณะเดียวกัน จีนก็ดำเนินยุทธศาสตร์ช่องทางที่สองควบคู่ไปกับยุทธศาสตร์แรก คือ การเพิ่มแสนยานุภาพทางการทหารในทะเลจีนใต้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยใช้การเจรจาถ่วงเวลา เพื่อในที่สุด จีนจะสามารถขยายแสนยานุภาพทางทหารควบคุมทะเลจีนใต้ได้ทั้งหมด

  สำหรับช่องทางที่หนึ่ง คือ การเจรจานั้น ปี 2019 นี้ จีนประสบความสำเร็จอย่างมาก ในการจัดทำCode Of Conduct (COC) ความขัดแย้งกับประเทศอาเซียนในทะเลจีนใต้ก็ทุเลาเบาบางลงไปมาก โดยเฉพาะการเผชิญหน้าทางทหารกับเวียดนามและฟิลิปปินส์ ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับจีนที่กรุงเทพ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้ง 2 ฝ่ายก็สามารถตกลงกันได้หลายเรื่องในการจัดทำร่าง COC แต่ก็มีหลายประเด็นที่ยังตกลงกันไม่ได้ ต้องเจรจากันต่อไป ซึ่งก็เข้าทางจีน ที่ต้องการใช้การเจรจาในการซื้อเวลาไปเรื่อย ๆ นอกจากนี้ จีนได้เจรจาทวิภาคีกับฟิลิปปินส์และเวียดนาม เพื่อเจรจาข้อตกลงความร่วมมือในการสำรวจก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน

  อย่างไรก็ตาม จีนได้ดำเนินยุทธศาสตร์ช่องทางที่ 2 คือ การเสริมสร้างแสนยานุภาพทางทหารควบคู่ไปกับการเจรจา โดยมีการสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ อาทิ สนามบิน ท่าเรือ รวมทั้งติดตั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ ขีปนาวุธต่างๆในเกาะที่จีนยึดครองอยู่ ทั้งในหมู่เกาะ Paracel และหมู่เกาะ Spratly นอกจากนี้ จีนพยายามตอกย้ำความป็นเจ้าของทะเลจีนใต้ ด้วยการส่งเรือรบเข้าไปลาดตระเวนและขับไล่เรือของชาติอื่นออกไป โดยมีการยิงเรือประมงของเวียดนามจม รวมทั้งมีการเผชิญหน้ากับเรือรบของฟิลิปปินส์ด้วย

  นอกจากนี้ จีนได้ใช้ยุทธศาสตร์แบ่งแยกและปกครอง เพื่อทำให้อาเซียนแตกแยก และไม่สามารถมีท่าทีร่วมในการเจรจากับจีนในเรื่องทะเลจีนใต้ได้ โดยอาเซียนแตกออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายที่โปรจีนมี 3 ประเทศหลัก คือ พม่า ลาว กัมพูชา และฝ่ายที่เป็นคู่ขัดแย้งกับจีนเรื่องทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

  จีนยังได้ประสบความสำเร็จในการซ้อมรบกับประเทศในอาเซียน นับเป็นครั้งแรกที่มีการซ้อมรบระหว่างจีนกับอาเซียน และจีนก็ได้แอบแฝงการขยายอิทธิพลทางทหารผ่านโครงการ BRI ท่าเรือหลายแห่งที่จีนสร้างภายใต้โครงการ BRI สามารถปรับเปลี่ยนเป็นฐานทัพเรือได้ กรณีที่ชัดเจน คือ ท่าเรือน้ำลึกที่เมือง Sihanoukville ทางตอนใต้ของกัมพูชา ซึ่งจีนลงทุนสร้างให้กัมพูชา และในขณะนี้ มีคนจีนอพยพไปอยู่ที่เมืองนี้หลายล้านคน จีนมีแผนจะพัฒนาท่าเรือนี้ให้กลายป็นฐานทัพใหญ่ของจีนในอาเซียน ในมหาสมุทรอินเดีย จีนก็มีแผนพัฒนาฐานทัพเรือหลายแห่ง อาทิ ท่าเรือ Hambantota ในศรีลังกา ที่จีนสร้างให้ศรีลังกา จีนก็กำลังจะปรับมาเป็นฐานทัพเรือใหญ่ ที่จะสามารถครอบงำมหาสมุทรอินเดียได้ จีนมีฐานทัพใหญ่อยู่ที่ประเทศจีบูตี และในอนาคต จีนอาจจะปรับท่าเรือ Kyakpyu ในพม่า และท่าเรือ Gwadarในปากีสถาน ให้เป็นฐานทัพเรือได้

  (โปรดติดตามอ่านต่อ ตอนที่ 2 ในคอลัมน์กระบวนทรรศน์ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 24 ตุลาคม 2562 )

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ คอลัมน์กระบวนทรรศน์ วันที่ 9 ตุลาคม 2562
ที่มารูปภาพ: https://www.gotoknow.org/posts/646825

จีน-อาเซียนจีนครอบงำอาเซียนอิทธิพลจีนต่ออาเซียน
Share this

The Author drprapat

ปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

More Posts Like This One

1

จีน-อาเซียน 2019 (ตอนที่ 2)

October 24, 2019
0 Comments General

Leave A Comment Cancel reply

9 + = 11

 
รศ.ดร.ประภัสสร์ เทพชาตรี ศ.ดร.ประภัสสร์ เทพชาตรี ปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้บรรยายพิเศษในสถาบันต่างๆ อาทิ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันพระปกเกล้า มีงานเขียน งานวิจัย ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และมีคอลัมน์ประจำ "กระบวนทรรศน์" ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์และคอลัมน์ประจำ "โลกทรรศน์" ในสยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์
  • หนังสือ "ยุทศาสตร์สหรัฐฯต่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"

  • หนังสือ "ประชาคมเอเชียตะวันออก"

  • หนังสือ "ประชาคมอาเซียน"

  • หนังสือ "สถานการณ์โลกปี 2553 และแนวโน้มปี 2554"

  • ปกนโยบายต่างประเทศ-USA-แก้-2557-07-28-at-3.05.01-PM

1/4

Calendar

January 2021
M T W T F S S
« Apr    
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031

Blog

drprapat-header-3

LINKS

คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์อาเซียนศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์อาเซียนศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ศึกษานโยบายระหว่างประเทศ (CIPS) ศูนย์ศึกษานโยบายระหว่างประเทศ (CIPS)

Tags

AEC al-Qaeda APEC ARF ASEAN Clinton Donald Trump EAS EU eurozone FTA G-20 ISIS Obama the rise of China TPP UN UNSC WTO การก่อการร้าย การต่างประเทศของไทย การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ความขัดแย้ง ความขัดแย้งทะเลจีนใต้ ความมั่นคง จีน ตะวันออกกลาง ประชาคมอาเซียน ประเทศมหาอำนาจ พม่า ยุทธศาสตร์สหรัฐฯ รัสเซีย วิกฤต Eurozone สงคราม สงครามการค้า สหรัฐ สหรัฐอเมริกา สหรัฐฯ อัฟกานิสถาน อาเซียน อิหร่าน เกาหลีเหนือ เศรษฐกิจ เอเชีย ไทย